จัดฟันใส
(invisalign)
จัดฟันใสคืออะไร?
การจัดฟันแบบใส invisalign เป็นการจัดฟันโดยที่ไม่ได้ใช้ลวดหรือโลหะในการเคลื่อนที่ของฟัน ลักษณะจะเป็นชิ้นงานใสคนไข้สามารถใส่และถอดได้ด้วยตนเอง จำนวนชิ้นงานขึ้นอยู่กับความยากของเคสนั้นๆ
การวิเคราะห์เคสจะทำโดยทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาร่วมกับการประมวลผลจากเคสของผู้รับการรักษา เทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ ปัจจุบันมีผู้เคยจัดฟันใส invisalign จากทั่วโลกจำนวนมากกว่า 8,000,000 เคส
invisalign แบ่งตามความซับซ้อนของฟันของคนไข้ที่มาจัด ทางคลินิกจะมีการแบ่งอยู่ 3 ระดับนั่นก็คือ Express lite และ Full
โดยทั่วไปแล้วชิ้นงานหรือที่เรียกว่า aligner จะสามารถขยับได้ 0.25 มิลลิเมตรต่อหนึ่งชิ้นงาน โดย 1 ชิ้นงานจะใช้เวลาใส่โดยประมาณ 10 วัน เพราะฉะนั้นแต่ละระดับจะใช้เวลาในการรักษาแตกต่างกันไป ตามจำนวนชิ้นงาน
-
Express ให้ชิ้นงานมา 7 ชิ้น
-
Lite ให้ชิ้นงานไม่เกิน 14 ชิ้น
-
Full ไม่จำกัดจำนวนชิ้นงาน สำหรับเคสที่มีความซับซ้อน หรือต้องการเคลื่อนฟันปริมาณมากๆ
เพราะฉะนั้นความเหมาะสมของแต่ละระดับจะขึ้นอยู่กับเคสของแต่ละบุคคล ยกตัวอย่างเช่น หากทันตแพทย์ประเมินเคสแล้วพบว่าฟันของคนไข้ต้องใช้การเคลื่อนฟันประมาณ 3 มิลลิเมตรฟันถึงจะเข้าที่ แพคเกจที่เหมาะสมจะเป็น Lite Package
คนไข้แต่ละคนเหมาะสมกับระดับไหน
-
Express และ Lite เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาน้อยมากๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้ที่เคยจัดฟันมาก่อนแล้วแต่ฟันขยับจากการที่ไม่ได้ใส่เครื่องมือคงสภาพฟันหรือรีเทนเนอร์ เช่น ฟันขยับออก ฟันบิดเล็กน้อย องศาฟันเปลี่ยนเล็กน้อย
-
Full เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหามากและมีระยะในการเคลื่อนที่ของฟันหลายๆมิลลิเมตร
ขั้นตอนการรักษา
-
เมื่อทันตแพทย์ทำการสแกนฟันด้วย iTero แล้ว จะได้ไฟล์จำลองการสบฟันดิจิทัลมา ไฟล์นี้จะถูกส่งไปยัง server ที่ต่างประเทศ จากนั้นระบบจะทำการประมวลผลจากโจทย์ที่ทันตแพทย์ตั้งไว้ โดยระบบจะประมวลจากฐานข้อมูลคนไข้กว่า 8,000,000 เคสที่เคยได้ทำ invisalign มา
-
เมื่อระบบประมวลผลเสร็จ จะทำการส่งแผนการรักษากลับมาให้ทันตแพทย์เจ้าของไข้ จากนั้นทันตแพทย์จะทำการปรับแผนการรักษาเพื่อให้เหมาะสมเฉพาะรายบุคคล โดยขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากอาจจะต้องมีการปรับแต่งหลายรอบ
-
เมื่อแผนการรักษาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ทันตแพทย์และคนไข้จะดูแผนการรักษาร่วมกันเพื่อให้คนไข้เข้าใจแนวทางในการรักษา และทราบถึงระยะต่างๆที่ฟันจะเคลื่อนไปในตำแหน่งที่กำหนด
-
หากคนไข้รับแผนการรักษาแล้ว ทันตแพทย์จะทำการรับรองแผน (Approved) เพื่อส่งคำสั่งไปให้บริษัทที่สหรัฐอเมริกาผลิตชิ้นงาน
-
แล็บส่งชิ้นงานมายังคลินิกและนัดรับชิ้นงาน ( ในการรับชิ้นงาน จะให้ชิ้นงานทีละบางส่วน เพื่อให้คนไข้ปรับตัวได้ และทันตแพทย์สามารถติดตามผลการขยับของฟันได้อย่างสม่ำเสมอ )
เครื่องสแกนฟัน iTero
iTero Element 2 เป็นเครื่องสแกนฟัน 3 มิติ ใช้แทนการพิมพ์ปาก มอบความสะดวก รวดเร็วและแม่นยำเมื่อสแกนเสร็จสามารถดูภาพได้ทันทีแบบ 3 มิติ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงลักษณะการเคลื่อนฟันคร่าวๆ ของตอนก่อนและหลังการรักษาอย่างคร่าวๆ ให้ผู้ที่มารับบริการให้เกิดความเข้าใจในเคสตัวเองได้มากขึ้น
สาเหตุหลักที่คลินิกเลือกใช้ iTero®️ เนื่องจาก มีความเข้ากันได้กับ Software ของ invisalign มากที่สุด
Vivera Retainers
(รีเทนเนอร์ วิเวียร่า)
หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟัน ซึ่งทาง invisalign ก็มีรีเทนเนอร์ที่ผลิตเองเป็นวัสดุเหมือนกับตัวชิ้นงาน มีลักษณะใส หนาและมีความแข็งแรงกว่ารีเทนเนอร์ทั่วไป ที่สำคัญคือเป็นตำแหน่งที่เราสแกนตั้งแต่ตอนอนุมัติเคส โดยปกติแล้วใน 1 ชุดจะมีจำนวน 3 คู่เพื่อป้องกันปัญหาสูญหาย
ข้อดี
-
เนื่องจากการจัดฟันแบบ invisalign มีการใช้เทคโนโลยีในการสแกนช่องปากด้วยเครื่องสแกน iTero ซึ่งเป็นเครื่องสแกนแบบ 3 มิติ โดยใช้ระบบดิจิตอลที่มีความแม่นยำ สามารถคำนวณได้ว่าต้องการใช้แรงประมาณเท่าไหร่ในการเคลื่อนที่ของฟัน เมื่อประกอบกับความสามารถและประสบการณ์ของทันตแพทย์ก็จะยิ่งส่งเสริมให้รักษามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ซึ่งคลินิกบ้านหมอฟันดําเนินสะดวกเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์จึงได้มีการนำเทคโนโลยีเครื่องสแกน iTero เข้าร่วมในการรักษา
-
ตัวชิ้นงานเป็นพลาสติกแบบ 3 ชั้นซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท Align
-
มีความระคายเคืองน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบติดแน่น
-
สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าและทั่วถึงมากกว่าเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบติดแน่น
ข้อด้อย
-
เครื่องมือที่ติดอยู่บนตัวฟันหรือที่เรียกว่า attachment อาจก่อให้เกิดความรำคาญเพียงเล็กน้อยแต่ไม่ทำให้เกิดแผลในช่องปาก แผลร้อนใน
-
ค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบติดแน่น
-
ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไข้ในการใส่เครื่องมือ หากคนไข้ใส่อุปกรณ์ไม่ถึงจำนวนชั่วโมงต่อวันที่กำหนดไว้ ฟันก็จะเคลื่อนตัวได้ช้า
ข้อควรปฏิบัติระหว่างรักษา
คำถามที่พบบ่อย
-
สามารถจัดฟันได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?การจัดฟันแบบติดแน่นส่วนใหญ่ทำในคนไข้ที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว แต่ในบางเคสที่คนไข้มีปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการของขากรรไกร ทันตแพทย์อาจจะให้ใส่เครื่องมือกระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรก่อนใช้เครื่องมือแบบติดแน่นในเวลาต่อไป
-
จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟันหรือไม่?จำเป็น หากไม่ทำการเคลียร์ช่องปากก่อนการจัดฟัน ในอนาคตเมื่อเกิดปัญหาจะทำรักษาค่อนข้างยาก ทำให้แผนการรักษาและระยะเวลาในการจัดฟันยืดเยื้อออกไปได้ ตัวอย่างหากคนไข้มีฟันคุดแต่ไม่ได้นำออกก่อนการจัดฟัน หลังจากการจัดฟันเสร็จฟันคุดจะดันฟันซี่ข้างเคียงส่งผลกระทบต่อการเรียงตัวของฟันเท่ากับว่าที่จัดฟันมานั้นเสียเปล่า
-
สามารถติดเครื่องมือบน - ล่าง พร้อมกันได้เลยหรือไม่?ปกติแล้วจะติดเครื่องมือด้านบนก่อนเนื่องจาก 1. คนไข้จะได้มีเวลาปรับตัวสำหรับเครื่องมือจัดฟันในช่องปาก 2. ฟันล่างในหลายๆเคส จะยังไม่สามารถติดเครื่องมือได้ เนื่องจาก พอฟันเรียงตัวไม่ดี เครื่องมือที่ติดบริเวณผิวของฟันล่าง จะชนกระแทกกับฟันบน ทำให้เครื่องมือหลุด 3. ในบางเคสอาจจะต้องเรียงฟันบนซักระยะนึงก่อนติดเครื่องมือข้างล่าง เพื่อให้ตำแหน่งและมุมฟันบนเอื้อต่อการติดเครื่องมือข้างล่างในตำแหน่งที่ถูกต้อง
-
หลังจากจัดฟันเสร็จต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลาหรือไม่?ในช่วงปีแรกควรใส่ตลอดเวลา ยกเว้นแค่ตอนกินกับตอนแปรงฟัน หลังจากปีแรกให้ใส่เฉพาะเวลากลางคืนหรืออาจะวันเว้นวันเพื่อคงสภาพของฟันเพราะหลังจากจัดฟันมาฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ เนื่องจากยังมีการกระทำของกล้ามเนื้อปาก ลิ้น ลักษณะขากรรไกรเดิมของคนไข้ซึ่งสามารถทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้
-
วิธีทำความสะอาดรีเทนเนอร์ไม่ควรใช้ยาสีฟันในการทำความสะอาดเนื่องจากในยาสีฟันมีผงขัด ซึ่งขนาดของผงขัดแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากัน เมื่อใช้แล้วจะทำให้รีเทนเนอร์ไม่เรียบเนียน เกิดหลุมเล็กๆ ทำให้เชื้อแบททีเรียเข้าไปฝังอยู่และเกิดความสกปรก ทันตแพทย์จึงแนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่หรือน้ำยาล้างจานจะดีที่สุด